ประกันชีวิตก็เหมือนร่ม
การมีประกัน ก็เหมือนการมี 'ร่ม' ที่เวลาอากาศดี แดดออก เรามักจะคิดว่าร่มนั้นเกะกะ ไม่จำเป็นต้องมีมันก็ได้ แต่พอเมื่อไหร่ที่ฝนตก พายุเข้า เราก็จะรู้สึกได้ว่าโชคดีแล้วที่เรามีสิ่งนี้ติดตัวมาด้วย ทั้งนี้นิยามของ “พายุเข้า” หรือ “ความเสี่ยง” ของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันนะครับ
ดังนั้นการเลือกร่มหรือประกัน ที่คุณควรมีติดตัวไว้เพื่อปกป้องคุณจากความเสี่ยงจึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้ดีว่า
1. ความต้องการของคุณคืออะไร?
2. ศึกษาว่าประกันแต่ประเภทมีประโยชน์อย่างไร?
3. เลือกแบบประกันที่ตรงกับความต้องการ เพื่อผลประโยชน์ที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ
1. ความต้องการของคุณคืออะไร?
2. ศึกษาว่าประกันแต่ประเภทมีประโยชน์อย่างไร?
3. เลือกแบบประกันที่ตรงกับความต้องการ เพื่อผลประโยชน์ที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ
ในวันนี้เราจะมาพูดถึงความต้องการในการจะเลือกทำประกัน อีกทั้งให้คุณได้ทบทวนว่าความต้องการของคุณคืออะไร และเหมาะที่จะเลือกทำประกันแบบไหนกันนะครับ
- ดูแลคนที่เรารักให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา เพราะในวันที่เราไม่สามารถอยู่ดูแลคนที่เรารักได้แล้ว เราจำเป็นต้องมีความคุ้มครองที่สามารถรองรับความเสี่ยงในส่วนนี้ได้ รวมถึงเป็นตัวช่วยในการดูแลคนที่คุณรักต่อไปอย่างไม่ติดขัด
แนะนำทำประกันชีวิต และประกันโรคร้ายแรง ที่พร้อมให้ความคุ้มครองคนที่คุณรักในวันที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับคุณ
- ต้องการสร้างความอุ่นใจให้คุณและคนที่คุณรัก หมดห่วงเรื่องภาระค่าใช้จ่ายเวลาที่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือเวลาที่ประสบอุบัติเหตุ
แนะนำทำประกันโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันชดเชยรายได้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในวันที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
- ออมเพื่ออนาคตของตัวเองหรือเพื่อคนที่คุณรัก เพื่อรอผลตอบแทนในวันที่จำเป็นต้องใช้เงิน
แนะนำประกันแบบสะสมทรัพย์ ที่นอกจากได้ประโยชน์ในการออมแล้ว ยังมีความคุ้มครองชีวิตอีกด้วย
- ลงทุนเพื่อผลตอบแทนที่ใช่
แนะนำประกันควบการลงทุน ที่รวมการทำประกันชีวิตและการลงทุนเข้าด้วยกัน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าการทำประกันชีวิตแบบปกติ ซึ่งลูกค้าจะได้รับผลประโยชน์ทั้งความคุ้มครองชีวิต และสร้างความมั่งคั่งผ่านการลงทุนในกองทุนรวมที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี
- ต้องการลดหย่อนภาษี ควบกับความคุ้มครองไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองชีวิตหรือสุขภาพ
แนะนำทำประกันชีวิต (ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี) ประกันสุขภาพ (ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาทต่อปี โดยการลดหย่อนนี้รวมกับเบี้ยประกันชีวิตสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี) หรือประกันบำนาญ (ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาทต่อปี*)
*รวมกับเงินลงทุนหรือเงินสะสมในเครื่องมือออมเงินเพื่อการเกษียณ เช่น RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ต้องรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
- ดูแลคนที่เรารักให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา เพราะในวันที่เราไม่สามารถอยู่ดูแลคนที่เรารักได้แล้ว เราจำเป็นต้องมีความคุ้มครองที่สามารถรองรับความเสี่ยงในส่วนนี้ได้ รวมถึงเป็นตัวช่วยในการดูแลคนที่คุณรักต่อไปอย่างไม่ติดขัด
แนะนำทำประกันชีวิต และประกันโรคร้ายแรง ที่พร้อมให้ความคุ้มครองคนที่คุณรักในวันที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับคุณ
- ต้องการสร้างความอุ่นใจให้คุณและคนที่คุณรัก หมดห่วงเรื่องภาระค่าใช้จ่ายเวลาที่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือเวลาที่ประสบอุบัติเหตุ
แนะนำทำประกันโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันชดเชยรายได้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในวันที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
- ออมเพื่ออนาคตของตัวเองหรือเพื่อคนที่คุณรัก เพื่อรอผลตอบแทนในวันที่จำเป็นต้องใช้เงิน
แนะนำประกันแบบสะสมทรัพย์ ที่นอกจากได้ประโยชน์ในการออมแล้ว ยังมีความคุ้มครองชีวิตอีกด้วย
- ลงทุนเพื่อผลตอบแทนที่ใช่
แนะนำประกันควบการลงทุน ที่รวมการทำประกันชีวิตและการลงทุนเข้าด้วยกัน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าการทำประกันชีวิตแบบปกติ ซึ่งลูกค้าจะได้รับผลประโยชน์ทั้งความคุ้มครองชีวิต และสร้างความมั่งคั่งผ่านการลงทุนในกองทุนรวมที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี
- ต้องการลดหย่อนภาษี ควบกับความคุ้มครองไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองชีวิตหรือสุขภาพ
แนะนำทำประกันชีวิต (ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี) ประกันสุขภาพ (ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาทต่อปี โดยการลดหย่อนนี้รวมกับเบี้ยประกันชีวิตสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี) หรือประกันบำนาญ (ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาทต่อปี*)
*รวมกับเงินลงทุนหรือเงินสะสมในเครื่องมือออมเงินเพื่อการเกษียณ เช่น RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ต้องรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
ที่มา Facebook/Thailand.AIA
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น